“เดี๋ยว!!!
หยุด หยุดๆๆ จะทำอะไรของนายวะ” เสียงหวานร้องแว้ดขึ้นท่ามกลางความมืดที่เงียบสงัด
มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและเข็มนาฬิกา
มือบางแกะมือปลาหมึกที่เริ่มจะไม่อยู่สุขหลังจากที่ล้มตัวลงนอนบนเตียงได้ไม่ถึงสามนาที
“ทำอะไร?
เลิฟๆไง ถามได้” อีกฝ่ายตอบเสียงงึมงำ
กัดซ้ำรอยเดิมที่ต้นคอจนอีกฝ่ายร้องเสียงดังพลิกตัวกลับมาผลักหัวถีบลำตัวออกให้ห่าง
“กรณีของนายมันเข้าข่ายขืนใจเฟ้ย
คนไม่เต็มใจจะมาทำได้ไงวะ”
เท่าที่จำได้เขายังไม่เคยขืนใจใครเลยซักครั้ง
แล้วทำไมเขาต้องมาโดนขืนใจด้วยล่ะเนี่ย!
“ขืนใจแค่นาทีเดียวเท่านั้นแหละ
หลังจากนั้นเรียกว่าสมยอม” หัวเราะคิกขยับมือเลิกเสื้ออีกฝ่ายขึ้น
ต้องขอบคุณนิสัยเสียของอากิที่มักจะใส่แค่เสื้อบางๆกับบ็อกเซอร์เวลานอน
อากิเป็นคนขี้ร้อนชนิดที่ว่าในคืนที่ไม่ใช่หน้าหนาวถ้าไม่เปิดแอร์จะขาดใจตายให้ได้เลยล่ะ
“บ้านป้าแกสิ
พอ หยุดเลย ฉันง่วง” ตัดบทดึงผ้าห่มคลุมตัวทั้งๆที่ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะห่มต้องลำบากพี่ชายให้มาห่มให้ทุกคืนเพราะกลัวจะเป็นไข้
ไม่ใช่ว่าห่วงมันหรอก แต่ห่วงตัวเอง
ถ้าคนร่วมห้องเป็นหวัดเขาก็มีสิทธิ์เป็นตามมันไปด้วยน่ะสิ
ดูท่าอีกฝ่ายจะเข้าใจถึงได้หยุดระรานแล้วล้มตัวลงนอนอีกหน
พอทุกอย่างเงียบร่างบางที่เหนื่อยมาทั้งวันกับกิจกรรมากมายก็เกือบจะหลับไปอยู่แล้วถ้าไม่ใช่ว่ามือมารมันกลับมาใหม่อีกรอบ
“อือ...พอซักที
ฉันรำคาญแล้วนะ”
ครางเสียงงัวเงียจะหลับแหล่มิหลับแหล่แต่มือยังกำผ้าห่มแน่น
อีกฝ่ายหัวเราะคิกสอดมือเข้าใต้ผ้าห่มลากมือตามแผ่นหลังที่ถูกกั้นด้วยเสื้อตัวบาง
พอไปถึงชายเสื้อก็ถลกขึ้นไล้มือไปด้านหน้าลูบหน้าท้องเรียบที่เริ่มเกร็งตัว
“โว้ย! คนจะหลับจะนอน จะมากวนทำหอกอะไรวะ”
ลุกพรวดออกมาจากผ้าห่มให้อีกฝ่ายคว้าตัวลงไปกดลงกับเตียงแล้วตามขึ้นไปคร่อมใช้น้ำหนักตัวกดร่างข้างใต้ที่พยศอย่างกับม้า
“กวนจนกว่าจะได้เลิฟๆไง”
“ตอนกลางวันมันไม่พอรึไงถึงมาต่อตอนดึกเนี่ย
อยากมากก็ทำไปคนเดียวสิวะ ไอ้ป๋องเล็กๆของแกน่ะ!!!”
คำพูดคำจาเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ
อากิเป็นคนที่พอง่วงแล้วไม่ได้นอนจะอารมณ์รุนแรงสุดๆ
ข้อนี่เขารู้ดีถึงได้อยากนึกแกล้งขึ้นมา …ก็ตอนวีนแตกมันน่ารักดี
“มาดูกันว่าเล็กๆของฉันจะทำให้นายเจ็บได้ขนาดไหน”
“ใครมันจะไปยอมให้ทำล่ะวะ
ฮึ่ย”
สบถอย่างหัวเสียนึกอยากจะถีบแต่มันดันเล่นกดขาเอาไว้แทบกระดิกไม่ได้
“อา กิ จัง~
มาเล่นกันเถอะ”
คนถูกเรียกแทบจะลมจับกับท่าทางแอ๊บแบ๊วไม่สมตัว
ไม่รู้หรือไงว่าหน้าตามันน่ะเด็กประถมยังเรียกลุง
“หอกเอ้ย” สบถคำหยาบออกมานับไม่ถ้วนจนอีกฝ่ายต้องจูบปิดปากนึกอยากจะสั่งสอนขึ้นมารำไร
ไม่ได้ดูแลแค่สองปีปากกล้าได้ขนาดนี้เชียว คงต้องจับมาสั่งสอนกันใหม่ตั้งแต่ต้น
ว่าเวลาอยู่ข้างใต้ควรจะพูดยังไงถึงจะถูกต้อง
โอกามิจับมือสองข้างขึ้นไปมัดตรึงไว้กับหัวเตียงกันอีกฝ่ายดิ้นหนี
ร้องโวยวายไม่พอใจว่าทำกับเขาแบบนี้อีกแล้วจนต้องเอื้อมมือไปปิดปากได้ยินแค่เสียงอื้ออึง
“ก็ไม่ได้อยากทำหรอกนะ
แต่เวลาเลิฟๆกันท่านี้ของนายมันเซ็กส์ดีนี่ ฉันชอบ” ยิ้มกริ่มดึงบ็อกเซอร์ตัวน้อยโยนลอยละลิ่วลงข้างเตียง
จัดท่าใหม่จับอีกฝ่ายแยกขาออกแล้วแทรกตัวลงตรงกลาง ใช้มือข้างที่ว่างปลุกเร้าส่วนที่ยังไม่ตื่นตัวของอีกฝ่ายให้ตั้งชัน
เสียงครางดังลอดออกมาเชิญชวนให้คนทำรู้สึกอยากฟังเปิดปากให้เป็นอิสระเร่งจังหวะมือให้ร่างบางร้องครางหนักเข้า
แทบขาดใจเมื่อตอนจะถึงปลายสุดแห่งความต้องการพี่ชายกลับหยุดมือเอาเสียดื้อๆใช้นิ้วคลึงส่วนยอดที่มีน้ำสีขุ่นปริ่มออกมาหนักๆ
“อ..ย่า...หยุด” ร้องบอกขยับสะโพกต้องการที่จะปลดปล่อยความทรมานแต่อีกคนกลับจุ๊ปากใส่กดหน้าท้องแบนร่างลงกับเตียง
“อย่าทำ? อย่าหยุด? เอาไงแน่” ก้มลงประกบริมฝีปากลงบนยอดอกสีสด
ขบกัดแรงๆกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
“อย่าหยุด..” พึมพำเสียงเบา
“หืม? ว่าไงนะครับ” คำถามทำให้คนข้างล่างนึกอยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายกันไปข้าง
ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาพูดเรื่องน่าอายแบบนี้เป็นรอบที่สาม
“อย่าหยุด” บอกเสียงดังขึ้นหน้าขึ้นสีแดงร้อนฉ่า คนถามยิ้มรับเลื่อนริมฝีปากครอบครอง ลิ้นร้อนไล้เลียดูดดุนรุนแรงสนองความต้องการของน้องชาย
ร่างบางเกร็งตัวปลดปล่อยเข้าไปในปากพี่ชายที่รับมันไว้ด้วยความยินดี
“นาย..กลืนมัน” ว่าเสียงเบาก่อนจะนึกเสียใจเมื่ออีกฝ่ายหยัดกายขึ้นก่อนจะก้มลงประกบปาก ลิ้นร้อนดันของเหลวเข้าไปในปากของอีกฝ่ายบังคับให้กลืนลงคอจนหมดผละออกมาให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสหายใจ
“แค่กๆ อึก...” สำลักได้เพียงนิดเดียวริมฝีปากก็ประทับลงมาอีกหนบดเบียดรุนแรง สอดลิ้นเข้าเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของน้องชายที่ตอบรับอย่างลืมตัวไปตามอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกรอบ
“จูบเก่งจังนะน้องชาย แบบนี้ต้องให้รางวัล”
จับเรียวขาแยกกว้างกดนิ้วผ่านเนื้อนุ่มรุกล้ำเข้าสัมผัสความร้อนด้านในทีเดียวพร้อมกันสามนิ้ว
ขยับมือเข้าออกไม่รอให้อีกคนได้ทันหายใจ
“โอ้ย! อ...อ๊า” ร่างบางสะดุ้งตัวโยนเมื่อนิ้วเร็วไปโดนจุดกระสัน
“ครั้งที่สามเองน้า~
ยังเป็นได้ขนาดนี้ คราวต่อไปคงไม่ต้องใช้นิ้วแล้วล่ะมั้ง” ว่าเสียงกระเส่ามองร่างข้างใต้ที่ขึ้นสีเพราะอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมานึกอยากจะเข้าไปข้างในเร็วๆ
เร็วเท่าความคิดนิ้วแกร่งกระชากออกปลดกางเกงของตนออกเผยให้เห็นแก่นกายที่กำลังพองตัวเพราะความต้องการ
“ไม่ ไม่เอานะ” ปฏิเสธเสียงสั่นขยับตัวหนีแต่อีกฝ่ายยึดแน่น นำของรักตัวเองไปจดจ่ออยู่ที่ปากทางอีกฝ่าย
“ฉันชอบเวลาที่นายร้องไห้ในท่านี้จัง
เหมือนกำลังยั่วฉันเลยล่ะ” กำลังจะอ้าปากด่าแต่อีกฝ่ายกระทุ้งตัวเข้าไปในช่องทางแน่นเปลี่ยนเป็นเสียงร้องครางหวานหู
เข้าไปได้เพียงครึ่งเดียวก็แทบขาดใจภายในยังตอดรับสุดยอดเหมือนเคย ฝืนผ่านเข้าไปลึกมากขึ้นเรียกเสียงร้องจากร่างบางให้ดังขึ้นอีกหน
เรียวขาสั่นระริกรู้สึกจุกจนหน้าท้องเกร็งไปหมด
“อาา..อึก อ๊ะ..อ๊าาา....” ร้องไม่เป็นภาษาเมื่อพี่ชายกระแทกเข้ามาสุดตัว
ขยับเป็นจังหวะเนิบนาบราวกับรอให้รางบางรู้สึกชิน รู้สึกไม่ทันใจยกสะโพกสวยขึ้นแยกขาออกจากกันขยับเข้าออกรุนแรงจนเตียงทั้งหลังสั่นคลอน
เหงื่อกาฬเริ่มไหลอาบไม่ได้รู้สึกเย็นเลยทั้งๆที่เครื่องปรับอากาศก็ทำงานต่ำกว่ายี่สิบห้าองศา
มีเพียงความร้อนระอุที่อีกฝ่ายมอบให้เท่านั้น
“อือ อากิ” ครางเสียงต่ำปรนเปรอร่างบางด้วยมือดูดดุนยอดอกตั้งชันรุนแรง
“อา อ...อ๊า!” ร้องเสียงเครือ เรียกให้อีกฝ่ายก้มลงจูบแลกลิ้นพัลวัน แนบชิดร่างกายลงมาแทบเป็นหนึ่งเดียว
“เรียกชื่อฉันสิ เรียกฉัน”
กระซิบแผ่วเบาข้างหูขบกัดราวกับจะหยอกล้อ สูดกลิ่นหอมจากเรือนร่างเร่งเร้าให้ความต้องการเพิ่มมากขยับกายรุนแรงขึ้น
“อา...อึก..โอกะ..อะ..โอกามิ”
ออกเสียงอย่างยากเย็นตามคำร้องขอแอ่นกายขยับรับจังหวะเร่งขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊าา...” ช่องทางภายในบีบตัวทำให้อีกฝ่ายชะงักกึกร่างบางเกร็งตัวเล็กน้อยปล่อยของเหลวสีขุ่นไหลเปรอะหน้าท้องพี่ชาย
โอกามิกระแทกตัวเข้าลึกสุดปลดปล่อยในร่างที่รองรับสมใจ ล้มตัวลงซบหน้าอกบางที่กระเพื่อมขึ้นลงหอบหายใจถี่อย่างเหนื่อยจัด
พักกายอยู่ชั่วครู่ก็ประทับรอยจูบลงบนอกบางก่อนจะถามเสียงกระเส่า
พักกายอยู่ชั่วครู่ก็ประทับรอยจูบลงบนอกบางก่อนจะถามเสียงกระเส่า
“อีกรอบดีไหมน้องชาย”
ไร้เสียงตอบรับใดๆ ไม่มีแม้แต่คำด่าที่ควรจะได้ยิน
คนถามเลื่อนสายตาขึ้นไปมองก็พบว่าน้องชายหลับไปแล้วเรียบร้อย ยิ้มขำก้มลงจูบหน้าผากเบาๆ
“ฝันดีนะครับ”